เมื่อมนุษย์ต้องรักษ์โลก

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากระแสรักษ์โลก การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมดูจะเป็นเคมเปญที่ถูกขับเคลื่อนอย่างเข้มข้นอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้ถุงพลาสติก (ไม่ให้ถุง แต่มีขาย?) การส่งเสริมปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวเพื่อควบคุมปริมาณคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ ทุกอย่างถูกรวมอยู่ในคำ ๆ เดียวว่า “Green”

คิดให้ลึกลงไปกว่านั้น บ้างก็ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งมองว่า กระแสรักษ์โลก รักสิ่งแวดล้อมเป็นการ ตีเกราะ เคาะไม้ สร้างเรื่องโกหกคำโต เพื่อเป็นเครื่องมือให้กับกลุ่มอำนาจนิยมบางส่วนที่ต้องการหาประโยชน์จากเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันเทคโนโลยีใหม่ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งหากมองในมุมนี้ Theory ก็ไม่ยากที่เราจะคิดตามก็เป็นไปได้

แต่ไม่ว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังจะเป็นอย่างไร หนึ่งในข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงจริง ๆ โลกร้อนขึ้น การย้ายถิ่นฐานของเหล่าสัตว์ทั่วโลก ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ดูเหมือนคำว่า “Green” ไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรูอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนหยิบจับสัมผัสได้

คาร์บอนคือกุญแจ?

การปล่อยคาร์บอนไดดออกไซด์เป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน หรือภาวะโลกร้อนไม่มีจริง? กลับเข้าประเด็น ภาวะโลกร้อน เป็นผลกระทบหลักและส่งผลเป็นวงกว้างไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิโลกสูงขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย หรือสภาพอากาศที่แปรปรวน

ปัจจุบันมีแรงกดดันจากหลายภาพส่วนที่ช่วยกันลดการปล่อยคาร์บอนเพิ่มมากขึ้นอาทิ การใช้พลังงานหมุนเวียน การพัฒนาเทคโนโลยีไฟฟ้าแทนถ่านหิน รวมถึงการปลูกป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ซึ่งดูเหมือนจะดีถ้าภาคธุรกิจไม่ผลิตสารเคมีเพิ่ม?

สินค้าและบริการต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นอกจากภาคพลังงานแล้ว ภาคอุตสาหกรรมผลิตเองก็มีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางของสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน เพราะการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมคือหัวใจในการช่วยลดภาระให้กับธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะประชากรโลก 1 คน ในปี 2025 เราสามารถสร้างขยะได้มากถึง 500 กิโลกกรัมต่อปี และขยะเกินกว่าครึ่งไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ

นี่จึงเป็นวัตถุประสงค์ใหม่ของกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ที่ต้องพัฒนาสินค้าและบริการของตัวเองให้ Green ที่สุดหรือลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้มากที่สุด

Green Trends กลุ่ม Elite

ในเวทีโลกผู้นำประเทศต่าง ๆ ได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนต่อเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมว่าในปีถัดไป หรือ อีกกี่ปี เราจะลดคาร์บอนให้ได้ตามเป้าหมายหรือตามแผนที่ตั้งไว้ตัวอย่าง สหภาพยุโรปตั้งเป้าทั้งภูมิภาคให้กลายเป็น Carbon Neutral ในปี 2050 สิ่งที่ดำเนินการไปแล้วคือประกาศหยุดสร้างโรงงานไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมด (ในต่างประเทศ)

กลุ่มธุรกิจระดับมหาชนก็ไม่แพ้กันเดินเรียงตบเท้าตามกันมาอย่าง Apple, google, Microsoft ต่างพากันประกาศการใช้พลังานหมุนเวียนเติม 100% เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนตลอดห่วงโซ่อุปทาน

โก-ดราย วัตถุดูดความชื้นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โก-ดราย (Go-dry) คือผลิตภัณฑ์ดูดความชื้น (วัตถุดูดความชื้น) ที่ผลิตจากดินธรรมชาติ 100% สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ทางเลือกใหม่สำหรับโลกสีเขียวอย่างแท้จริง

  • ผลิตจากเคลย์ธรรมชาติ 100% ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตราย
  • ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่สร้างภาระผูกพันให้ระบบนิเวศและสังคม
  • สินค้าได้รับมาตรฐาน Food Grade เหมาะกับอาหาร, ยา, อาหารเสริม, ฯลฯ
  • ไม่ก่อให้เกิดฝุ่นหรือสารตกค้าง เหมาะทั้งคนและสัตว์

โก-ดรายจึงไม่ใช้เพียงซองดูดความชื้นแต่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงแห่งอนาคตที่ยั่งยืน เป็นตัวเลือกที่ตอบทุกปัญหาทั้งด้านประสิทธิภาพและสิ่งแวดล้อม

สรุป

สิ่งแวดล้อมหรือ Green Environment จะเป็น Chapter ใหม่ของผู้เล่นในอนาคตหากสินค้าหรือบริการของใครไม่พูดถึงหรือเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม โลกจะเริ่มออกห่างคุณไปเรื่อย ๆ เริ่มได้ตั้งแต่ตอนนี้เพื่อธุรกิจที่ยังยืนของคุณ

สามารถปรึกษาทุกเรื่องเกี่ยวกับ วัตถุดูความชื้น วัตถุดูดออกซิเจน กับเราฟรี!เพียง
ปรึกษาฟรี! : LineOA

Shopping Cart
Scroll to Top